ซื้อ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เหมาะกับเราหรือไม่?
- สมพันธ์การลงทุน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- Oct 22, 2019
- 1 min read

หากใครคิดว่า การลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องไกลตัว ต้องมีเงินทุน 20 30 ล้านถึงจะทำได้ วันนี้ ESTO มีตัวเลือกมานำเสนอ นั่นก็คือ กองทุนรวมอสังหาฯ ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์, เงินทุนยังไม่เยอะ, ไม่มีเวลามานั่งติดตามตลาด และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น หากใครคิดว่า...ตนเองกำลังเป็นเช่นนี้อยู่ล่ะก็ ตามไปอ่านต่อได้เลย
HIGHLIGHT
ผลตอบแทนของกองทุนรวมมี 2 ประเภท ซึ่งจะจ่ายผลตอบแทนให้แตกต่างกันถึงกองทุนรวมอสังหาฯ จะมีความเสี่ยงสูง แต่ไม่ค่อยผันผวนไปตามตลาดหุ้นแนะนำตัวอย่างรายชื่อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สำหรับที่ผู้สนใจ
รู้จักกองทุนรวมก่อนสักนิด
กองทุนรวมคืออะไร?
กองทุนรวม (Mutual Fund) คือ การที่เราและคนอื่น ๆ นำเงินไปซื้อหน่วยลงทุน เพื่อรวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ แล้วค่อยให้บริษัทจัดการกองทุนรวม (บลจ.) นำเงินไปบริหารจัดการ โดยที่เรากับคนอื่น ๆ นั่งรอรับผลตอบแทนตามที่ได้กำหนดไว้
ผลตอบแทนจากกองทุนรวม
โดยทั่วไปมีแบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ 'เงินปันผล' กับ 'ผลต่างราคา (Capital Gain)' ซึ่งทั้งสองตัวจะจ่ายผลตอบแทนให้ต่างรูปแบบกัน โดย...
เงินปันผลจะได้กำไรหลังจากหลังค่าใช้จ่ายแล้วนำเงินมาหารกันตามจำนวนหน่วยที่ซื้อไป โดยจะแบ่งจ่ายเป็นงวดตามที่กำหนด ทุก 3 เดือน, ทุก 6 เดือน แต่ปกติจะไม่เกิน 4 ครั้ง/ปี ขณะที่ผลต่างราคา (Capital Gain) จะขึ้นอยู่กับมูลค่ากองทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น ซื้อกองทุนรวมมาก 100 บาท เวลาผ่านไปเราอาจขายหน่วยลงทุนนี้ได้ 150 บาท ซึ่ง 50 บาทที่เพิ่มมาคือกำไร Capital Gain นั่นเอง แถมยังไม่ต้องเสียภาษี 10% เหมือนกับเงินปันผลด้วยClose Ads
ประเภทกองทุนรวม
หากแบ่งกันตามความเสี่ยงแล้ว จะแบ่งได้หลายระดับ ไล่ไปตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำมาก,ความเสี่ยงต่ำ, ความเสี่ยงกลาง, ความเสี่ยงสูงไปจนถึงสูงมาก ซึ่งกองทุนรวมอสังหาฯ ก็เป็นหนึ่งในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะถ้าเราลองประเมินตนเองเองแล้วว่ารับความความเสี่ยงนี้ไหว กองทุนรวมอสังหาฯ ก็เป็นตัวเลือกที่สามารถทำกำไรให้เราได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยทีเดียว
แนะนำให้รู้จักกับ กองทุนรวมอสังหาฯ
หากพิจารณาแล้วว่า กองทุนรวมอสังหาฯ (Property Fund) น่าสนใจและอาจเหมาะกับตัวเอง งั้นลองมาทำความรู้จักกับมันเล่น ๆ ก่อนแล้วกัน
กองทุนรวมอสังหาฯ (Property Fund) ในที่นี่จะรวมถึงโรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, คอนโดมิเนียม, ทาวน์โฮม, สนามบิน ฯลฯ ด้วย ซึ่งเราสามารถซื้อได้ 2 แบบ คือ กองทุนที่ซื้ออสังหาฯ เป็นของตนเอง กับ กองทุนที่ลงทุนในสิทธิการเช่าของอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง
สำหรับกองทุนที่ซื้ออสังหาฯ มาเป็นกรรมสิทธ์ (Freehold) เราจะถือว่าเป็นเจ้าของอสังหาฯ เอง โดยรายได้ของกองทุนจะมาจากการให้เช่าหรือขายอสังหาฯ เมื่อเลิกกองทุนนั้น และผู้ลงทุนจะเงินปันผลมาจากการปล่อยเช่าและค่าส่วนต่างของราคาขายอสังหาฯแต่กองทุนที่ลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) เราจะไม่ได้เป็นเจ้าของอสังหาฯ ส่วนรายได้ของกองทุนจะได้จากค่าเช่าระหว่างระยะการทำสัญญาเช่า พอครบกำหนดก็ต้องคืนอสังหาฯ นั้นให้เจ้าของ โดยผู้ลงทุนจะได้เงินปันผลจากการปล่อยเช่าเป็นผลตอบแทน
ลงทุนกับกองทุนรวมอสังหาฯ ยิ่งได้ราคาเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
เพราะถ้าจะให้หาเงินหลายล้านไปลงทุนเอง ก็คงเป็นไปค่อนข้างยาก ยิ่งทำเลดี ๆ ยิ่งราคาแพง แถมการแข่งขันยังสูงอีก ทางออกที่เป็นไปได้ที่สุดจึงตกมาที่กองทุนรวม เนื่องจากใช้เงินทุนน้อยกว่า แต่สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ได้หลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยง แถมยังมีสภาพคล่องมากกว่า เพราะกองทุนรวมได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ซื้อง่ายขายก็คล่อง
และต่อให้ช่วงนั้นตลาดหุ้นผันผวนขึ้นลงไปมา แต่เราก็ยังหายใจหายคออยู่ได้ เพราะอัตราผลตอบแทนของกองทุนรวมอสังหาฯ ไม่ค่อยแปรผันกับสินทรัพย์พื้นฐานจำพวกหุ้น หรือตราสารหนี้ ช่วยให้ชีวิตนักลงทุนมือใหม่สบายขึ้น แต่ส่วนมากจะต้องใช้เวลานาน กว่าจะเห็นผลกำไรแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งกองทุนเหล่านี้มักจ่ายเป็นเงินปันผลเพื่อรักษานักลงทุนไว้ไม่ให้หนีหายกันไปไหน
ความเสี่ยงของกองทุนรวมอสังหาฯ
ประโยคที่ว่า “ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” ยังใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ แต่สำหรับอสังหาริมทรัพย์แล้ว จะต้องพิจารญาเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน อย่าง ความเสี่ยงที่มีผลมาจากปัจจัยภายนอก เช่น มีการแข่งขันในทำเลเดียวกันสูงขึ้น หรือปัจจัยภายใน อย่าง การที่ผู้เช่าอสังหาฯ ของกองทุนรวมไม่ยอมจ่ายค่าเช่า
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่า ตนสามารถรับความเสี่ยงไหว ต่อไปเราจะมาแนะนำ “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์” น่าสนใจกัน
ตัวอย่างรายชื่อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจ พร้อมบลจ. ที่บริหารจัดการ
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ (QHHR) : บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ศาลาแอทสาทร (SSPF) : บลจ. กรุงศรี จำกัดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) : บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี ฟรีโฮสต์ เอท ทองหล่อ (UOB8TF) : บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) : บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) : บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) : บลจ. บัวหลวง จำกัด
สรุป การจะเลือกลงทุนกับกองทุนรวมประเภท ควรเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ศึกษาระยะเวลาที่มีผลต่อการลงทุน รวมถึงความเสี่ยงของแต่ละกองทุนรวม ว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน โดยธนาคาร หรือบลจ. จะให้เราทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนซื้อกองทุน ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะพิจารณาจากอายุของผู้ลงทุน, จำนวนเงินทุน, ความรู้หรือประสบการณ์ในการลงทุน หากพอมีความรู้ หรือประสบการณ์ก็จะสามารถลงทุนเชิงรุกได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน ตลอดจนทัศคติ ว่าชอบลงทุนแบบปลอดภัย หรือหวังผลกำไรหนัก ๆ
Comments